ไฟฟ้าสถิตเกิดจากการนำวัตถุที่มีประจุบวกมาสัมผัสกับวัตถุที่มีประจุลบทั้งสองชนิดมีการขัดถู สัมผัส หรือเสียดสีกันระหว่างวัสดุก็จะทำให้ประจุไฟฟ้าเหล่านี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัสดุประเภทที่ไม่นำไฟฟ้าหรือที่เรียกว่า ฉนวน เช่น การนำลูกโป่งมาถูกับเส้นผม หรือการสัมผัสกันระหว่างรองเท้าหนังและพรมเช็ดเท้า สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้า เป็นผลให้เกิดความไม่สมดุลของจำนวนประจุบวกและประจุลบในวัสดุแต่ละชิ้น ด้วยเหตุนี้วัสดุที่ต่างก็มีความไม่สมดุลของประจุไฟฟ้าจึงมีความพยายามถ่ายเทประจุไฟฟ้ากับวัสดุอื่นๆ เพื่อสร้างความสมดุลให้กับตัวเอง และการแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้านี้เองที่เป็นสาเหตุของความรู้สึกที่คล้ายกับการถูกไฟฟ้าช็อตนั่นเองค่ะ
ในวงการผลิตมีทั้งปัญหาที่เกิดจากไฟฟ้าสถิตและเทคโนโลยีที่นำไฟฟ้าสถิตมาใช้ในโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ ไฟฟ้าสถิตทำให้อุปกรณ์ต่างๆเสียหายและส่งผลให้อัตราผลิตแย่ลง
และไฟฟ้าสถิตยังเป็นสาเหตุที่ทำให้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ ทำงานผิดพลาดหรือชำรุดเสียหายได้ อีกทั้งการปลดปล่อยประจุไฟฟ้าของไฟฟ้าสถิตก็ยังเป็นสาเหตุให้เกิดระเบิดได้อีกด้วย
โดยทั่วไปผิวของถุงพลาสติกทั่วไปจะมีความต้านทานผิว (surface resistance) อยู่ที่ประมาณ 10^15-10^16 Ohm/Sq” ซึ่งเป็นค่าความต้านทานที่เหมาะสำหรับใช้เป็นฉนวนไฟฟ้าแต่ก็เป็นตัวเก็บสะสมไฟฟ้าสถิตย์ทีดีมากเช่นกันดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาคือ ทำให้ความต้านผิวของตัวถุงพลาสติกมีค่าลดต่ำลงเป็นไม่ให้เป็นกักเก็บหรือแหล่งเกิดไฟฟ้าสถิตย์
การผลิตถุงพลาสติกป้องกันไฟฟ้าสถิตของบริษัทเอ็นดูแพ้ค ได้รับการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสามารถทำให้ค่าความต้านทานผิว(surface resistance) น้อยกว่าหรือเท่ากับ10^11 Ohm/Sq”
ซึ่งเหมาะสมและปลอดภัยในการใช้งานกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
สอบถามรายละเอียด
คุณเจษฎา (เจษ)
HP:098-995-3600
LINE ID: ENDUPAK